Monday 18 November 2019

job at the 7-11, back to rehab (3)

น้องธีร์กับแม่ พอดีแม่ขายของที่หน้าชุมชนวันเดียวกันที่น้องทำงานที่ 7-11
จนพอเริ่มทำงานที่นี้ ธีร์จะเป็นรุ่นพี่เด็กหลายคน
เนื่องจากว่าธีร์ไม่มีประสบการณ์ทำงาน ธีร์ต้องเริ่มทำที่ระดับต้นๆ เท่ากับรุ่นน้องเค้าด้วย
เพราะฉะนั้นเค้าต้องเป็นรุ่นพี่ของสตาร์ฟเกือบทุกคน ไม่ใช่รุ่นน้องยังที่ผมคิด
น้องเดินด้านหลังร้านไปเรียกธีร์ออกมา
น้องดีใจจนเกือบกระโดดเข้าอ้อมแขนผมเมื่อแรกเห็น
เค้าจับมือผมและบอกเด็กๆ ที่ยืนข้างเคาน์เตอร์ว่า นี่คือพ่อผมแล้วก็ยิ้มเบ่งบานด้วยภาคถูมิใจ
ผมสังเกตุว่า น้องใส่เสื้อแจ๊คเก็ตกันหนาว เลยถามเค้าว่า แกไปทำอะไรที่นี่
ผมทำงานในตู้เย็นเค้าตอบ
ตามหน้าที่น้องจะเติมสิ่งของตู้แช่ใหญ่ๆ ที่ด้านหลังร้าน
เค้าอธิบายว่า ตู้เปิดได้สองด้าน เมื่อลูกค้าหยิบของจากข้างหน้า น้องจะค่อยเติมของจากด้านหลังภายในห้องเก็บของ
นอกนั้นเค้าต้องถ่ายกล่องสินค้าที่ถูกส่งไปที่ร้าน
น้องก็กลายเป็นสตาร์ฟในห้องเก็บของที่ลูกค้าจะมองไม่เห็น
ผมไปหาเค้าทุกๆสองสามวันต่ออาทิตย์
เค้าจะออกมาดูดบุหรี่คุยกับผมที่หน้าร้านเล่นๆ
หรือถ้าน้องหิวผมจะพาเค้าไปกินข้าวที่ร้านทำกับข้าวตามสั่งข้างๆ เซเว่น
เวลาคุยกับทีมงานที่เซเว่น ธีร์ดูตื่นเต้นยิ้มแย้มร่าเริงดีเสมอ
แต่ดูเหมือนว่าไม่เป็นจริงเป็นจังสักเท่าไร
จนผมสงสัยว่า พวกเค้าเห็นน้องเป็นพี่ตัวตลกของร้านรึป่าว
เหมือนน้องคิดไม่ทันกับคนอื่นรึว่าอะไรไม่รู้
แม่ให้เงินใช้ วันละ100 บาท เอาไว้ซื้อข้าว แต่น้องต้องทำงานหลายชั่วโมง
เค้าเข้ากะตอนบ่ายโมงครึ่ง เลิก ทุ่มครึ่ง อาทิตย์ละ วัน
ผมถามน้องว่าทำไมทางร้านไม่ยอมให้เค้าหยุดอาทิตย์ละสองวันเหมือนคนอื่น
คนไม่มีวุฒอย่างผม จะไม่มีสิทธิหยุดสองวันหรอกไมเคิลเค้าบอกเหมือนรู้ชะตากรรมตัวเองในวงการงานต้อง
เป็นยังไงในวันข้างหน้า
น้องจะสู้ๆกับงานนี้เป็นห้าอาทิตย์  แต่สุดท้ายงานก็ล้ม
เค้าได้เงินเดือน 7,000 กว่าบาทแต่แม่ดันไปหักเก็บ 3,000 บาทเลย ให้เป็นค่าเช่าห้องเค้า
น้องบ่นกับผมว่า แม่อมเก็บเกือบครึ่งของเงินเดือนเค้าเสียแล้ว
ผมตกใจกับข่าวนี้ แม่จะไปใจร้ายกับลูกทำไม
ถ้าหักเก็บนิดหนึ่งก็พอจะเข้าใจเพราะแม่มีค่าใช้จ่ายที่บ้าน แต่ที่ไปเรียกร้องเยอะขนาดนี้ถ้าน้องรู้สึกบั่นทอนใจไม่อยากทำงานแล้วทุกคนจะเห็นใจเค้า
-
ซอยอมรตอนกลางวันดูเงียบหงอย รูปถ่ายใกล้กับ 7-11 ที่น้องไปทำงานอยู่
ผมไปหาเค้าเรื่อยๆจนเบื่อ
น้องชอบทำนัดเจอกันที่หน้าร้านแต่มาช้ามากจนผมเลิกไปหา
ผ่านมาไม่กี่อาทิตย์อีกผมได้มีข่าวว่าธีร์โดนไล่ออกไปแล้ว
ผมได้รับรู้เมื่อเค้าเริ่มส่งเมสเซจไปหาผมตอนดึกๆ เรียกผมไปหามันที่ห้อง
พอดีผมติดงาน เค้าต้องรออีก วัน จนเราว่างและได้ไปเจอกัน
ผมนัดเจอธีร์ไปเจอกันที่หน้าซอกห้องที่เปิดออกไปสู่ถนนเส้นพระราม 3
ธีร์เดินออกจากซอกพร้อมถือแฟ้มเอกสารไว้ มุ่งหน้าไปสมัครงานใหม่ที่ห้างเซนทรัลอีก
น้องดูเครียดและไม่สบายใจเท่าไรเหมือนมีปัญหาที่บ้าน
ผมสังเกตุว่าเมื่อใดที่น้องอารมณ์เครียดแบบนี้ เค้าจะแสดงตัวก้าวร้าวขึ้นด้วย
'
ผมไม่ได้กินข้าวเป็น วัน แม่ไม่ยอมให้เงินใช้เค้าบ่นกับผม
ผมไม่ค่อยเชื่อฟังเท่าไร แต่ผมส่งเงิน 100 บาท ให้เค้า เป็นค่าเดินทางไปที่ห้าง
วันถัดไปผมโทรและไลน์ไปหาน้อง ด้วยอยากรู้ว่าเค้าได้งานรึยัง แต่น้องไม่รับ (สงสัยแม่ยึดโทรศัพท์เค้าไว้เป็นการลงโทษที่น้องเสียงานที่เซเว่นไป)
สุดท้ายผมเลือกเดินไปหาเค้าที่ห้องตอนมืดๆ เพื่อความสบายใจตัวเอง
แต่เรากลับเจอน้องอารมณ์เสียอีก เค้าไล่ผมออกจากหน้าห้องโดยไม่ยอมเปิดประตูคุยกันเลย
ไปเลย ไปเลยเค้าตะโกนหลายรอบออกมา

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม