Monday 18 November 2019

job at the 7-11, back to rehab (6)

เพราะแม่ต้องเจอลูกบ้าง เห็นสภาพจิตก็น่าจะรู้แล้วว่าเค้าติดยา
การพาไปบำบัดตัวครั้งนี้ แม่มีเพื่อนช่วย
หนุ่มคนนี้ ชื่อวัด เคยเล่นยาเมื่อก่อนเหมือนกัน อาสาสมัครพาน้องไปบำบัดตัวที่จังหวัดราชบุรี
 วัดเคยไปรักษาตัวเองที่สถานบำบัดแห่งนั้น เมื่อไม่กี่เดือนก่อน และแนะนำให้น้องไปด้วย
ผมไม่รู้จักวัดส่วนตัว แต่เมื่อไม่นานนี้เอง ก็มักจะเห็นเค้าเดินมุ่งไปหาพวกเล่นยาที่ซอกโต๊ะแปดนั้นเกือบทุกคืน เป็นแหล่งเล่นยาแถวบ้านเรา ที่น้องธีร์ชอบไปนั่งเล่นด้วย
วัดมีลูกชายตัวเล็ก ที่ชอบตัวติดพ่อไปที่โน่นประจำ พอวัดทำธุระที่โน่นเสร็จเค้าจะเดินกลับไปด้วยกับลูก
ลูกเค้าเป็นเด็กที่มีไหวพริบดี  (ผมเล่นกับเค้าบ่อยที่หน้าบ้านวุฒิ ซึ่งอยู่ระหว่างเดินทางกลับกับพ่อเค้าน่าจะรู้ว่าพ่อกำลังทำอะไรกับพวกมัน
ช่วงเวลานั้นก็น่าจะเป็นช่วงก่อนที่วัดไปบำบัดตัว
ในเวลาต่อมา หลังจากน้องเข้าบำบัดตัวที่ราชบุรีเรียบร้อยแล้ว ผมได้รู้จากเพื่อนว่า วัดแวะไปสอนธีร์ที่โน่นด้วย ว่าจะเลิกเล่นยายังไงดี และปรับตัวเป็นคนดีในสังคม
แม่กับธีร์ไปช็อปปิ้งกัน แม่โพสต์ไปในช่วงนั้นที่น้องถูกพาไปรับการบำบัดตัวรอบที่สอง โดยไม่ได้บอกผู้ติดตามเฟซเค้าว่า ที่จริงแล้ววันนั้นน้องเข้าบำบัดตัว เป็นรูปเก่า สภาพน้องแย่มากตอนนั้น (เหมาะกับการไปรักษาตัว ไม่ใช่ไปช็อปปิ้งหรอก แม่อยากนึกถึงเวลาดีๆมากกว่าละมั้ง ถึงเลือกโพสต์รูปหลอกคน)
สภาพตัวน้องจริงๆก่อนไปรักษาตัว
ตอนแรกพวกเรา ไม่ได้รู้เรื่องหรอกว่า แม่พาเค้าไปบำบัดตัวอีกครั้ง เพราะแม่ไม่ได้บอกใครในกลุ่มเพื่อนเค้า และน้องเองไม่มีโอกาสไปลาใครทั้งๆที่เราคงไม่ได้เจอกันอีกนาน
เวลาต้องผ่านไปหลายวันก่อนที่พวกเราสังเกตุเห็นว่าน้องไม่อยู่
เพื่อนบ้านและเพื่อนสมัยเด็กธีร์ คือน้องต้นนั้นเอง ยังไม่รู้เลยว่าธีร์ไปแล้ว
สุดท้ายผมได้ข่าวว่าน้องไปบำบัดตัวจากหนุ่มคนหนึ่ง ชื่อเต๋า ที่รู้จักพวกเพื่อนแม่ร่วมถึงหนุ่ม วัด ด้วย
วันนั้นผมนั่งกินเหล้ากับเต๋า ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านวุฒิ
เค้าเล่าให้ฟังว่าคุณวัด ซึ่งเป็นเพื่อนแม่ธีร์ พาน้องไปบำบัดตัวเมื่อสองสามวันก่อน
เป็นครั้งแรกที่พวกเราได้รับรู้ว่าเค้าไปรักษาตัว
เต๋าเล่าต่อว่า 
'คลีนิกบำบัดตัวนี้ให้บริการฟรี แต่เค้าทำโหดๆ แบบหักดิบ หมอไม่ได้ให้ยาช่วยคนเลิกยาหรอก ผู้ป่วยจะถูกล่ามโซ่ติดเสาไปเลยจนไม่มีอาการติดยาแล้วเค้าว่าไป
เต๋าเล่าให้ฟังเฉยๆ ไม่ได้พูดกวนหรือแกล้งให้ผู้ฟังสะเทือนใจหรอก (มั้ง...ผมมารู้ทีหลังว่าไอ้เต๋าพูดเพี้ยนและไขว้เขวเกือบทั้งเรื่องเลย) แต่ผมก็ยังตกใจและคิดมากอยู่ดี
ผมได้ไปดูแลน้องเหมือนเป็นลูกหลานเรา พอได้ยินข่าวที่ว่าน้องถูกล่ามโซ่ไว้กับเสาทิ้งไปอย่างนั้น
ผมรู้สึกแย่
ไม่อยากคิดว่าเค้าจะโดนทุกข์ทรมารขนาดนี้
พอเลิกคุยกันผมแอบเดินไปที่หน้าบ้านแม่ แล้วก็ฝากคุณลุงเพื่อนบ้านเค้า ให้บอกแม่ว่า ผมอยากไปเยี่ยมน้อง เมื่อไรสะดวกขอพาผมไปหาลูกที่โน่นหน่อย
คุณลุงคงได้บอกแม่นั้นแหละ เพราะในวันถัดไปช่วงเช้า ผมเดินเข้าซอยและได้เห็นแม่คุยกับผู้ใหญ่ในศูนย์กลางชุมชนพอดี
แต่เมื่อแม่เห็นผมกำลังเดินไปหาปุ๊บ แม่วิ่งหนีออกไป จนผมตามไม่ทัน
เค้าวิ่งเข้าซอกแคบๆ ข้างๆตึก แล้วก็หันกลับไปมองดูว่า ผมกำลังเดินทันตัวเค้ามั้ย ก่อนโดดขึ้นแท็กซี่แล่นออกไปตามถนนพระราม 3
เรามีปัญหากันก่อนหน้านี้จริงและไม่ได้คุยเป็นเวลานานแล้วด้วย
แต่ผมคิดว่าเรื่องของลูกคงสำคัญมากกว่า ผมรู้สึกเสียดายที่เรายังคุยกันไม่ได้
ตอนเย็นๆวันเดียวกันเค้าขึ้นโพสเฟซในทำนองประชดผมว่า
ถ้ากูใจร้ายใส่ใคร
โปรดจงรู้ไว้
กูไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน
เค้าไม่ได้เอ่ยชื่อผม แต่เป้าหมายน่าจะเป็นผมนั้นแหละ
ซึ่งโพสนี้บ่งบอกว่าแม่คงรู้สึกผิดที่หนีผมไปนิดหนึ่ง
แต่อยากแสดงความไม่สบายใจมากกว่าที่เรายังบาดหมางใจกัน
ผมต้องอธิบายนิดนึงว่าแม่ใช้เวลาเยอะมากกับการเล่นโซเซียลจนเป็นชีวิตจิตใจเค้า
เค้ารู้กติกาการเล่นดี คืออยากติเตียนหรือต่อว่าใครไป ไม่ต้องระบุชื่อเค้าก็ได้ คนที่เป็นเป้าหมายการโจมตีนั้นคงจะรู้เอง
เพราะฉะนั้นจะมีแต่คนโง่ๆอย่างฉันเท่านั้นที่จะเอาเรื่องแค่นี้ไปคิด แต่ฉันเอาไปคิดจริง
แม่รู้อยู่แล้วว่าผมสนิทกับลูกเค้าแล้วทุกวันนี้ยังเป็นห่วงอยู่ จะแกล้งผมทำไม

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม