Monday 18 November 2019

haircut adventures (5)

แถวๆนี้ผมสามารถเจอร้านแบบนี้ได้ทั้งสองรูปแบบ
ผมเคยไปใช้บริการร้านนึงอยู่หน้าสลัม ที่ทำร้านดูเป็นเพิงกั้นขึ้นมามากกว่าเป็นร้าน
ถ้าเป็นร้านสภาพมักง่ายแบบนี้ ลูกค้าต้องพร้อมจะโดนฝนสาดและลมพัดเข้าประจำเพราะร้านที่เป็นเพิงแบบนี้ ไม่มีฝาผนังป้องกันไว้
แน่นอนอยู่แล้วร้านเบสิกแบบนี้จะไม่มีแอร์ ไม่มีอ่างไว้ล้างผมด้วย
แต่ที่น่าเสียวมากกว่านี้ ก็คือเจ้าของร้านที่ไม่มีฝีมือ และใช้อุปกรณ์ห่วย
เช่นเครื่องมือตัดผมแบบทื่อๆ ไฟสลัวๆ เก้าอี้เอนไม่ลง
ปกติผมจะใช้บริการห่วยๆ แบบนี้ถ้าจำเป็นจริงๆเท่านั้น
แต่บางครั้งเราก็ไม่มีทางเลือก ถ้าร้านโปรดของเราปิด
และในซอยอมรมีป้าคนหนึ่งที่สายตาสั้นจนเหมือนเป็นคนตาบอดแต่เปิดหน้าบ้านเป็นร้านตัดผมชาย
พอลูกค้านั่งลง เค้าต้องลองจับหัวลูกค้าดูก่อนสิว่าผมยาวแค่ไหนและตรงไหน ก่อนที่จะทำการลงมือตัด โดยจะเอาแบตเตอร์เลี่ยนทื่อๆมาตัดผม แถมยังมีสนิมเกาะอีก

ร้านตัตผมของป้าคนนั้นที่เกือบจะตาบอด มีรถเข็นจอดไว้ข้างๆ

แต่น่าสยองไปมากกว่านั้น
สมมุติว่าป้าแกจับมีดโกนเพื่อจะโกนหนวด แต่ดันทำหลุดมือโดนใบหูหรือหน้าลูกค้าเข้า
ลูกค้าคนนั้นอาจจะเจอความซวยทั้งทรงผมที่ตัดแย่ๆและหน้าเสียโฉมอีกด้วย 
ป้าคนนี้ไม่ใช่ช่างจริงๆ
วันหนึ่งผมไม่มีทางเลือก ต้องไปนั่งลุ้นเล่นเสี่ยงโชคกับป้าคนนี้
เมื่อเค้าเอาเครื่องแบตเตอร์เลี่ยนตัดลงกับหัวผม ใบมีดทื่อๆแม่งก็เริ่มติดกินเส้นผมดึงหนังหัวเข้าไป
ผมถึงกับสะดุ้งตัวเจ็บหัว
ป้าต้องดึงปลั๊กเครื่องออกถึงจะปล่อยหัวผมออกได้
ป้าเป็นเจ้าเดียวในซอยที่เปิดร้านในวันนั้น
เพราะเป็นวันหยุดราชการพอดี ร้านอื่นปิดหมด
ผมแอบดูหัวผมในกระจกเงาที่มัวๆ
ทรงผมแหว่งไปหมด
พอจ่ายค่าตัดผมเสร็จแล้วผมต้องรีบกลับบ้านให้แฟนค่อยแก้ไขตัดแต่งให้ดูดีหน่อย
ถ้ากลับไปหาป้าคนนี้อีก ยังไงเราต้องกลับไปเล่นเสี่ยงอันตรายอีก
ไม่เอาดีกว่า

ร้านที่ผมเลือกให้น้องไปใช้บริการวันนั้น
เป็นร้านตัดผมประจำของเรา
ผมรู้จักเจ้าของร้านเป็นปี 2ปีแล้ว
เจ๊คนนี้เป็นช่างมืออาชีพ และมีชื่อเสียงดีด้วย
แกรับเด็กฝึกงานประจำแต่กลับเจอซวย
พอลูกน้องฝึกงานได้มีฝีมือดีแล้ว เค้ามักจะย้ายออกไปเปิดร้านทำผมเอง
ลูกน้องจะกลายเป็นคู่แข่งเจ้ซะแล้ว
แต่ไม่เป็นอะไร เจ้เป็นคนใจดี
เค้าคิดราคา ค่าไถหัว (ค่าตัดผม) คนละ 100 บาท ถูกดี
ก่อนที่ผมจะได้ไปเจอเจ้คนนี้ 
ผมมีช่างตัดผมประจำที่ใกล้บ้านเราเหมือนกัน

ร้านหน้าพระราม ที่เป็นร้านตัดผมโปรดผมเมื่อก่อน

เค้าตั้งร้านอยู่ที่ถนนเชื้อเพลิง ฝั่งตรงข้ามกับหน้าปากซอยอมร
ผู้ชายคนนี้เป็นคนอีสาน มีเมียและลูกชายตัวเล็ก 
เค้าเป็นหนึ่งในกลุ่มดังกล่าวที่มีร้านจัดบริการไว้ในร้านที่เป็นเพิง
แล้วเค้าสร้างโครงร้านนี้ขึ้นด้วยมือเค้าเอง
ถ้ามีลมพัดแรงๆ เพิงจะคลอนแคลนโยกเยกเสียงลั่นดังเอี๊ยดน่ากลัว
 ถ้าแรงมากๆ สักวันอาจจะล้มกระแทกใส่หัวทั้งช่างและลูกค้าไปด้วย
ร้านเค้าอยู่ท่ามกลางเพิงอีกหลายหลังที่เข้าไปรุกล้ำที่ดินของทางรัฐ อยู่หน้าชุมชนสลัมใหญ่ฝั่งโน้น
เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เจ้าหน้าที่รัฐได้รื้อทุบเพิงพวกนี้จนเกือบหมด
แต่ร้านช่างตัดผมโชคดีหน่อย
ทางรัฐเว้นเพิงของเค้าไว้ไม่ได้โดนทุบทิ้ง

now, see here

No comments:

Post a Comment

เขียนเป็นไทยหรืออ้งกฤษก็ได้คับ Thai or English is fine...

โพส์ตเด่น

20plus club (Postscript 3, final)

แคปชั่นก๊อปจากเน็ต: โรงพยาบาลตำรวจบริเวณสี่ แยกราชประสงค์ ปี พ.ศ. 2542 แจกเสร็จ น้องก็นั่งรอจ่ายบิลอยู่ข้างๆผม มือน้องสั่น เหงื่อออกเต็มหน้า...

โพส์ตนิยม